“ศิลปะเพื่อศิลปะ” กับ “ศิลปะเพื่อชีวิต” ปะทะและประดาบกันสืบเนื่องยาวนานในศตวรรษที่แล้ว อำนาจรัฐรวมศูนย์หนุนหลัง “ศิลปะเพื่อศิลปะ” แล้วกีดกันใส่ร้าย “ศิลปะเพื่อชีวิต” ทำให้ภาษาและวรรณกรรมไทยได้รับนิยามยกย่องเป็นงานศิลปะบริสุทธิ์เพื่อศิลปะล้วนๆ “ไม่การเมือง” จากนั้นใช้กล่อมเกลาและครอบงำสังคมไทยผ่านระบบการศึกษานับร้อยปีมาแล้ว ในโลกความจริง ภาษาและวรรณกรรมไทยเป็นผลผลิตของสังคม-การเมืองและเศรษฐกิจ เพราะคนที่มีพลังสร้างสรรค์ทางภาษาและวรรณกรรมทุกยุคทุกสมัย ล้วนอยู่ใต้อำนาจของสังคม-การเมืองและเศรษฐกิจสมัยนั้นๆ ไม่มียกเว้น
“ศิลปะเพื่อศิลปะ” กับ “ศิลปะเพื่อชีวิต” ปะทะและประดาบกันสืบเนื่องยาวนานในศตวรรษที่แล้ว อำนาจรัฐรวมศูนย์หนุนหลัง “ศิลปะเพื่อศิลปะ” แล้วกีดกันใส่ร้าย “ศิลปะเพื่อชีวิต” ทำให้ภาษาและวรรณกรรมไทยได้รับนิยามยกย่องเป็นงานศิลปะบริสุทธิ์เพื่อศิลปะล้วนๆ “ไม่การเมือง” จากนั้นใช้กล่อมเกลาและครอบงำสังคมไทยผ่านระบบการศึกษานับร้อยปีมาแล้ว ในโลกความจริง ภาษาและวรรณกรรมไทยเป็นผลผลิตของสังคม-การเมืองและเศรษฐกิจ เพราะคนที่มีพลังสร้างสรรค์ทางภาษาและวรรณกรรมทุกยุคทุกสมัย ล้วนอยู่ใต้อำนาจของสังคม-การเมืองและเศรษฐกิจสมัยนั้นๆ ไม่มียกเว้น