หลังคว้าซีไรต์จาก ลับแล, แก่งคอย อุทิศเก็บตัวเขียนนิยายเล่มนี้อยู่สองปีเต็ม เขาบอกว่าการรักษาพลังงานในการเขียนให้คงที่ทั้งเล่มเป็นสิ่งสำคัญ น่าสนใจตั้งแต่ต้น ไม่แผ่วตอนกลางเรื่อง และไม่เหมือนโคถึกในตอนจบ แต่ต้องรักษาจังหวะให้ดีทั้งเรื่องนี่คือเรื่องเล่าของตัวละครชุดเดิมจากเรื่องลับแล,แก่งคอย มันคือประวัติศาสตร์ของครอบครัวเขา อุทิศทำให้เราเชื่ออย่างนั้น เพราะตัวเอกของเรื่องชื่ออุทิศ และเราคนอ่านจะจินตนาการแปลกไปกว่านี้ได้อย่างไรเล่า“มีคนเคยบอกว่า ของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อจะมอบให้ลูกชายได้ คือ การที่พ่อตายจากไปในช่วงที่ลูกชายยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น...” อุทิศขึ้นต้นนิยายของเขาด้วยถ้อยคำนี้ เขาต้องการที่จะอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้แก่พ่อ อทิศพาคนอ่านไปยังพงศาวดารกระซิบ อุทิศกับความเจ็บช้ำจากพ่อ อุทิศกับความแค้นที่มีต่อน้องชาย อุทิศกับความสัมพันธ์อันรวดร้าวกับกันยา และอุทิศกับอุทิศที่เราไม่รู้จัก…เมื่อกันยา หนึ่งในตัวละครเอ่ยว่า ‘นายเป็นนักตัดแต่งความทรงจำ!’ ถ้อยคำนี้แหละคือบทสรุปของกลวิธีการเขียนอันเหนือเมฆของอุทิศ เหมะมูล!
หลังคว้าซีไรต์จาก ลับแล, แก่งคอย อุทิศเก็บตัวเขียนนิยายเล่มนี้อยู่สองปีเต็ม เขาบอกว่าการรักษาพลังงานในการเขียนให้คงที่ทั้งเล่มเป็นสิ่งสำคัญ น่าสนใจตั้งแต่ต้น ไม่แผ่วตอนกลางเรื่อง และไม่เหมือนโคถึกในตอนจบ แต่ต้องรักษาจังหวะให้ดีทั้งเรื่องนี่คือเรื่องเล่าของตัวละครชุดเดิมจากเรื่องลับแล,แก่งคอย มันคือประวัติศาสตร์ของครอบครัวเขา อุทิศทำให้เราเชื่ออย่างนั้น เพราะตัวเอกของเรื่องชื่ออุทิศ และเราคนอ่านจะจินตนาการแปลกไปกว่านี้ได้อย่างไรเล่า“มีคนเคยบอกว่า ของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อจะมอบให้ลูกชายได้ คือ การที่พ่อตายจากไปในช่วงที่ลูกชายยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น...” อุทิศขึ้นต้นนิยายของเขาด้วยถ้อยคำนี้ เขาต้องการที่จะอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้แก่พ่อ อทิศพาคนอ่านไปยังพงศาวดารกระซิบ อุทิศกับความเจ็บช้ำจากพ่อ อุทิศกับความแค้นที่มีต่อน้องชาย อุทิศกับความสัมพันธ์อันรวดร้าวกับกันยา และอุทิศกับอุทิศที่เราไม่รู้จัก…เมื่อกันยา หนึ่งในตัวละครเอ่ยว่า ‘นายเป็นนักตัดแต่งความทรงจำ!’ ถ้อยคำนี้แหละคือบทสรุปของกลวิธีการเขียนอันเหนือเมฆของอุทิศ เหมะมูล!