เมื่ออยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง การหวนกลับมาให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์ต้องห้ามก็ปรากฎขึ้นอย่างแพร่หลายอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้คนหันมาสนใจประวัติศาสตร์ที่ถูกลบเลือนไปจากความทรงจำสังคมไทยที่สำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งคือ เหตุการณ์ปฏิวัติสยามเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 อันเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเปลี่ยนผ่านระบอบรัฐสยามให้มีรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจสูงสุด จากกลุ่มคนที่ประกาศเรียกตนเองว่า ‘คณะราษฎร’หนังสือนวนิยายภาพเล่มนี้ต้องการฉายภาพความเป็นมนุษย์ของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ และขยายความรับรู้สภาพบ้านเมืองสยาม ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ผ่านตัวละครที่มีความนึกคิด ความหวาดกลัว ความรัก ความหวัง และความฝันที่ตนมีต่อการสร้างสังคมอุดมคติ ไม่ต่างจากสิ่งที่ผู้คนในสังคมไทยกำลังประสบอยู่ ณ ปัจจุบันเรื่องย่อณ สยามประเทศ ภัยทุกข์ยากหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกัดกินความหวังในหัวใจผู้คนอย่างร้าวลึกและรุนแรง พระนครเต็มไปด้วยความหวาดระแวงต่ออาชญากรรมที่พร้อมเกิดขึ้นทุกวินาที นิภา นักหนังสือพิมพ์สาว ได้รับแจ้งหนังสือข่าวลับจากทางการว่า นักกฎหมายรุ่นใหม่จากปารีส ผู้สอนวิชากฎหมายบ้านเมืองสุดโต่ง อาจเสี่ยงเป็นภัยต่อบ้านเมือง ด้วยการเกี่ยวพันกับขบวนการคอมมิวนิสต์เพื่อโค่นล้มราชบัลลังก์สยามเพื่อสืบค้นหาความจริง นิภา พยายามติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองของกลุ่มใต้ดินอย่างไม่ลดละ นั่นทำให้เธอพบเจอกับกลุ่มคนที่ประกาศเรียกตัวเองว่า ‘คณะราษฎร’ ขบวนการของข้าราชการรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายสูงสุด คือการมุ่งหวังการยึดอำนาจ จากกษัตริย์พระปกเกล้าฯ เพื่อเปลี่ยนระบอบการเมืองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) ให้กลายเป็นระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy)นิภาจึงเข้ามาพัวพันระหว่างภารกิจของคณะราษฎรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอจำเป็นต้องสวมหน้ากาก เพื่อใช้ชีวิตอยู่ระหว่างโลกสองโลก นั่นคือ โลกผู้โหยหาการเปลี่ยนแปลง และโลกผู้มีอำนาจ ในยามที่เธอต้องสืบข่าวลับให้แก่ฝ่ายคณะราษฎร นักเขียนสาวพบเจอกับเหตุการณ์มากมายที่เธอไม่คาดฝัน ทั้งการชิงไหวชิงพริบทางการเมือง ความหวาดกลัว มิตรภาพ การทรยศหักหลัง รวมไปถึงการตั้งคำถามต่อคุณค่า ความเป็นมนุษย์ในใจของเธอเอง
เมื่ออยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง การหวนกลับมาให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์ต้องห้ามก็ปรากฎขึ้นอย่างแพร่หลายอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้คนหันมาสนใจประวัติศาสตร์ที่ถูกลบเลือนไปจากความทรงจำสังคมไทยที่สำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งคือ เหตุการณ์ปฏิวัติสยามเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 อันเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเปลี่ยนผ่านระบอบรัฐสยามให้มีรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจสูงสุด จากกลุ่มคนที่ประกาศเรียกตนเองว่า ‘คณะราษฎร’หนังสือนวนิยายภาพเล่มนี้ต้องการฉายภาพความเป็นมนุษย์ของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ และขยายความรับรู้สภาพบ้านเมืองสยาม ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ผ่านตัวละครที่มีความนึกคิด ความหวาดกลัว ความรัก ความหวัง และความฝันที่ตนมีต่อการสร้างสังคมอุดมคติ ไม่ต่างจากสิ่งที่ผู้คนในสังคมไทยกำลังประสบอยู่ ณ ปัจจุบันเรื่องย่อณ สยามประเทศ ภัยทุกข์ยากหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกัดกินความหวังในหัวใจผู้คนอย่างร้าวลึกและรุนแรง พระนครเต็มไปด้วยความหวาดระแวงต่ออาชญากรรมที่พร้อมเกิดขึ้นทุกวินาที นิภา นักหนังสือพิมพ์สาว ได้รับแจ้งหนังสือข่าวลับจากทางการว่า นักกฎหมายรุ่นใหม่จากปารีส ผู้สอนวิชากฎหมายบ้านเมืองสุดโต่ง อาจเสี่ยงเป็นภัยต่อบ้านเมือง ด้วยการเกี่ยวพันกับขบวนการคอมมิวนิสต์เพื่อโค่นล้มราชบัลลังก์สยามเพื่อสืบค้นหาความจริง นิภา พยายามติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองของกลุ่มใต้ดินอย่างไม่ลดละ นั่นทำให้เธอพบเจอกับกลุ่มคนที่ประกาศเรียกตัวเองว่า ‘คณะราษฎร’ ขบวนการของข้าราชการรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายสูงสุด คือการมุ่งหวังการยึดอำนาจ จากกษัตริย์พระปกเกล้าฯ เพื่อเปลี่ยนระบอบการเมืองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) ให้กลายเป็นระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy)นิภาจึงเข้ามาพัวพันระหว่างภารกิจของคณะราษฎรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอจำเป็นต้องสวมหน้ากาก เพื่อใช้ชีวิตอยู่ระหว่างโลกสองโลก นั่นคือ โลกผู้โหยหาการเปลี่ยนแปลง และโลกผู้มีอำนาจ ในยามที่เธอต้องสืบข่าวลับให้แก่ฝ่ายคณะราษฎร นักเขียนสาวพบเจอกับเหตุการณ์มากมายที่เธอไม่คาดฝัน ทั้งการชิงไหวชิงพริบทางการเมือง ความหวาดกลัว มิตรภาพ การทรยศหักหลัง รวมไปถึงการตั้งคำถามต่อคุณค่า ความเป็นมนุษย์ในใจของเธอเอง