“จนกว่าเราจะพบกันอีก” ในรูปนวนิยาย จะว่าไปนวนิยายเรื่องนี้ผู้ประพันธ์น่าจะจงใจป้อนข้อมูลเชิงวิชาการที่ตนได้ไปประสพพบเห็น และน่าจะนำส่วนที่ดี ๆ หลายอย่างมาประยุกต์ใช้ในกลุ่มคนไทยได้ ผู้ประพันธ์จึงได้เจาะจงให้ตัวละคร ๒ ตัว คือชายไทยซึ่งไปจากเมืองไทย ชื่อโกเมศ ได้ไปพบกับสาวเจ้าชาวออสเตรเลียที่ชื่อ โดโลธี แล้วเดินเรื่องด้วยการสนทนาแลกเปลี่ยนทัศนคติและความคิดเห็นไม่ว่าด้านการเมือง การปกครองประเทศ ความเป็นอยู่ของชนชั้นนายทุน ไปถึงกลุ่มชนของกรรมกรและผู้ยากไร้ ตลอดจนแวดวงวัฒนธรรมของชาติ และเรื่องทั่วไป นวนิยายเรื่องนี้ต่างไปจากนวนิยายที่ใช้ฉากต่างแดนในสมัยก่อน ๆ แต่กลับเสริมเติมให้ชายหนุ่มและหญิงสาวได้แลกเปลี่ยนความคิดในแบบอุดมคติร่วมกัน นับเป็นวรรรกรรมชั้นเอกของนักประพันธ์ผู้นี้ได้เช่นเดียวกับเล่มอื่น ๆ ไม่ว่า ข้างหลังภาพ, สงครามชีวิต และหรือ แลไปข้างหน้า
“จนกว่าเราจะพบกันอีก” ในรูปนวนิยาย จะว่าไปนวนิยายเรื่องนี้ผู้ประพันธ์น่าจะจงใจป้อนข้อมูลเชิงวิชาการที่ตนได้ไปประสพพบเห็น และน่าจะนำส่วนที่ดี ๆ หลายอย่างมาประยุกต์ใช้ในกลุ่มคนไทยได้ ผู้ประพันธ์จึงได้เจาะจงให้ตัวละคร ๒ ตัว คือชายไทยซึ่งไปจากเมืองไทย ชื่อโกเมศ ได้ไปพบกับสาวเจ้าชาวออสเตรเลียที่ชื่อ โดโลธี แล้วเดินเรื่องด้วยการสนทนาแลกเปลี่ยนทัศนคติและความคิดเห็นไม่ว่าด้านการเมือง การปกครองประเทศ ความเป็นอยู่ของชนชั้นนายทุน ไปถึงกลุ่มชนของกรรมกรและผู้ยากไร้ ตลอดจนแวดวงวัฒนธรรมของชาติ และเรื่องทั่วไป นวนิยายเรื่องนี้ต่างไปจากนวนิยายที่ใช้ฉากต่างแดนในสมัยก่อน ๆ แต่กลับเสริมเติมให้ชายหนุ่มและหญิงสาวได้แลกเปลี่ยนความคิดในแบบอุดมคติร่วมกัน นับเป็นวรรรกรรมชั้นเอกของนักประพันธ์ผู้นี้ได้เช่นเดียวกับเล่มอื่น ๆ ไม่ว่า ข้างหลังภาพ, สงครามชีวิต และหรือ แลไปข้างหน้า